หูฟังไร้สายจากทาง Huawei ในรุ่น Freebuds 4 นั้นเป็นหูฟังชนิด Open-Fit ที่ทางแบรนด์ออกแบบมาให้สามารถสวมใส่ได้สบาย สามารถใช้งานได้ยาวนาน ไม่เจ็บหู มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา โดยมาพร้อมกับฟังก์ชั่นที่น่าสนใจอัดแน่นเลยครับ_x000D_

_x000D_

การออกแบบ_x000D_

_x000D_

ในส่วนของการออกแบบนั้น Huawei Freebuds 4 เป็นหูฟังไร้สาย true wireless แบบ Open-Fit ที่ออกแบบมาให้สามารถสวมใส่ได้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนที่มีหูเล็กหรือใหญ่ครับ ตัวหูฟังมีขนาดเล็กน้ำหนักเบาเพียง 4.1 กรัม ใช้การควบคุมด้วยการแตะและรูดที่บริเวณตัวก้าน มาพร้อมกับเคสสำหรับพกพาที่ทำหน้าที่ชาร์จแบตเตอรี่ในตัว โดยในรุ่นนี้ตัวเคสจะไม่รองรับการชาร์จแบบไร้สายครับ_x000D_

_x000D_

อุปกรณ์ภายในกล่อง_x000D_

_x000D_

- Huawei Freebuds 4_x000D_

_x000D_

- เคสสำหรับพกพาและชาร์จแบตเตอรี่_x000D_

_x000D_

- คู่มือการใช้งานเบื้องต้น_x000D_

_x000D_

_x000D_

การใช้งาน_x000D_

_x000D_

ในส่วนของการใช้งานนั้น Huawei Freebuds 4 จะใช้การเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.2 โดยสามารถใช้งานได้นานสูงสุด 22 ชั่วโมงรวมเคส (ปิด ANC) โดยระยะเวลาการใช้งานจะขึ้นอยู่กับฟังก์ชั่นและระดับเสียงที่ใช้ สำหรับการชาร์จตัวเคสจะชาร์ด้วยสาย USB-C ครับ_x000D_

_x000D_

สำหรับการจับคู่นั้น เมื่อเปิดฝาเคสของ Huawei Freebuds 4 หากไม่เคยทำการจับคู่มาก่อน ตัวหูฟังจะเข้า pairing mode โดยอัตโนมัติ และหากต้องการเข้าโหมดจับคู่เองก็สามารถกดปุ่มที่ตัวเคสค้างไว้ได้ ตัวหูฟังสามารถจับคู่ได้ 2 อุปกรณ์พร้อมกับ โดยต้องสลับเพื่อใช้งาน_x000D_

_x000D_

ภายในของ Huawei Freebuds 4 นั้นจะใช้ไดร์เวอร์ชนิด dynamic LCP ขนาด 14.3 มม. ที่ทางแบรนด์ออกแบบให้มีเบสมากกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 150% เพื่อความบันเทิงที่สมบูรณ์แบบ_x000D_

_x000D_

Huawei Freebuds 4 มาพร้อมเทคโนโลยี Open-Fit Active Noise Cancellation 2.0 ที่จะช่วยลดเสียงรบกวนรอบตัวลงได้สูงสุดถึง 25 เดซิเบล และ Adaptive Ear-Matching ที่จะเลือกระดับการตัดเสียงรบกวนให้เข้ากับแต่ละคนโดยอัตโนมัติ_x000D_

_x000D_

_x000D_

_x000D_

ในส่วนของการควบคุมนั้น Huawei Freebuds 4 จะใช้การควบคุมด้วยการและ และการรูดที่บริเวณก้านหูฟัง โดยการควบคุมเบื้องต้นมีดังต่อไปนี้ครับ_x000D_

_x000D_

- แตะสองครั้ง : รับสาย / วางสาย, เล่นเพลง / หยุดเพลงชั่วคราว, เพลงก่อนหน้า / เพลงถัดไป, เปิดระบบสั่งการด้วยเสียง_x000D_

_x000D_

- เลื่อนขึ้น / ลง : เพิ่มเสียง / ลดเสียง_x000D_

_x000D_

- กดค้าง : เปิด/ปิดระบบตัดเสียงรบกวน, ปฏิเสธทั้งหมด_x000D_

_x000D_

Huawei Freebuds 4 มาพร้อมไมโครโฟนแบบคู่ที่สามารถบันทึกได้ที่ความละเอียด 48KHz ที่สามารถเลือกได้ 2 โหมดระหว่าง โหมดเสียงรอบข้าง ที่จะทำการบันทึกบรรยากาศรอบตัว และโหมดพูดที่จดจำคลื่นเสียงของผู้ใช้งาน และตัดเสียงอื่นๆออก เพื่อให้สามารถสื่อสารได้อย่างคมชัด_x000D_

_x000D_

Huawei Freebuds 4 ออกแบบให้มีดีเลย์เสียงที่ต่ำ โดยเมื่อใช้งานร่วมกับ ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS จะมีดีเลย์เพียง 90ms และหากใช้งานร่วมกับระบบ EMUI จะมีดีเลย์เพียง 150ms เท่านั้น_x000D_

_x000D_

ตัวหูฟัง Huawei Freebuds 4 รองรับการใช้งานร่วมกับแอป Huawei AI Life ที่ออกแบบมาสำหรับการปรับแต่งฟังก์ชั่นต่างๆของหูฟังครับ_x000D_

_x000D_

ในส่วนของการกันน้ำ Huawei Freebuds 4 ออกแบบให้กันน้ำในระดับ IPX4 ที่สามารถโดนเหงื่อและละอองน้ำได้ จึงสามารถใช้งานในกิจกรรมต่างๆได้อย่างหายห่วง_x000D_

_x000D_

_x000D_

คุณภาพเสียง_x000D_

_x000D_

หลังจากที่ได้ลองฟังกับเพลงหลาย ๆ แนว ทั้งเพลงตลาดทั่วไป เพลง Pop, Rock ไปจนถึงพวก Heavy Metal เลยล่ะครับ ซึ่งเมื่อได้ฟังแล้วต้องบอกว่าโทนเสียงของ FreeBuds 4 นั้นมีความโปร่ง ให้เสียงกลางที่มีเนื้อเสียงชัดเจนมีรายละเอียดชิ้นดนตรีที่ดี และ ยังแจกแจงทิศทางของเสียงออกมาได้ดี และ น่าฟังมากกว่าในรุ่นเดิมครับ_x000D_

._x000D_

_x000D_

เสียงนักร้องจะมีเอกลักษณ์มาก เพราะเป็นเสียงร้องที่โดดเด่นออกมา โฟกัสเสียงได้ชัดถ้อยชัดคำ ไม่รู้สึกคลุมเครือแม้แต่น้อย เสียงแหลมจะสว่างสดใส ทอดตัวได้ดีไม่กุดด้วน และ มีความเป็นธรรมชาติ ไม่ถูกปรุงแต่งมากจนเกินไป ส่วนเวทีเสียงนั้นถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง ไม่ได้กว้าง และ ไม่ได้รู้สึกแคบครับ_x000D_

._x000D_

ย่านเสียงต่ำของเค้าจะถูกควบคุมด้วย Bass Engine ที่สามารถปรับจากใน APP AI LIFE ได้ ทำให้มีมวลเสียงที่อิ่ม และ เนื้อหนา แก้ไขจุดอ่อนของหูฟัง Earbud ที่ขาดเบสได้เป็นอย่างดี ทำให้ฟังเพลงที่มีเบสนำอย่างแนว Pop, R&B และ Rock ได้สนุกมากยิ่งขึ้นครับ_x000D_

_x000D_

สรุปเกี่ยวกับหูฟังไร้สาย Huawei Freebuds 4_x000D_

_x000D_

โดยรวมแล้วหูฟังไร้สาย Huawei Freebuds 4 เป็นหูฟังที่ออกแบบให้สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลายสถานการณ์ โดยมีดีไซน์ที่สวมใส่สบาย ไม่เจ็บ ทำให้ใช้งานได้เป็นเวลานาน ควบคุมง่ายด้วยระบบสัมผัส พร้อมระบบตัดเสียงรบกวนที่จะช่วยลดเสียงรบกวนรอบตัวได้เป็นอย่างดี ให้รายละเอียดเสียงสูง ฟังสนุก เหมาะกับการใช้ฟังเพลง เล่นเกม หรือชมภาพยนต์เป็นอย่างยิ่งครับ